วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เเบบทดสอบการส่งงานครั้งที่ 1

เเบบทดสอบการส่งงานครั้งที่ 1 ที่นี่

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การอดอาหาร

อดอาหาร เพื่อขจัดสารพิษ

การอดอาหาร (Fasting) เป็นวิธีการที่ดีอย่างหนึ่งในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย (Detoxification) โดยขบวนการธรรมชาติ และช่วยในขบวนการฟื้นฟูร่างกายอีกด้วย ซึ่ง การอดอาหารนี้ เราจะไม่กินอะไรเลย ยกเว้นดื่มน้ำ การอดอาหาร สามารถทำได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากร่างกายจะดึงเอาสารอาหารที่เก็บอยู่ในรูปไขมันออกใช้ได้โดยไม่เกิดอันตราย จะเห็นตัวอย่างได้จากความเชื่อของศาสนาอิสลาม ที่ห้ามไม่กินอะไรในช่วงกลางวัน หรือแม้แต่ในขณะที่สัตว์ไม่สบาย เราจะพบว่ามันจะไม่กินอาหาร ซึ่งเป็นไปตามสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต เพราะเมื่อใดที่กินอาหาร หมายถึงว่าเราจะต้องใช้พลังงานมหาศาล มาใช้ในการย่อยอาหาร ลองคิดภาพง่ายๆว่า จะต้องใช้พลังงานมากแค่ไหน ในการย่อยผ่านทางเดินอาหารที่ยาวถึง 26 ฟุต ในทางตรงข้ามเมื่อเรางดอาหาร หมายถึงเราเหลือพลังงานเหลือเฟือที่ใช้ในการกำจัดสารพิษและซ่อมแซมตัวเอง แต่มนุษย์ มักจะละทิ้งสัญชาตญาณตรงนี้ไป มักจะคิดว่าต้องกิน จะได้มีแรง

อาหารเป็นยา

หมู่นักบริโภคเพื่อสุขภาพ คำว่า อาหารเป็นยาเป็นเรื่องที่ทราบกันดี เพราะอาหารที่คุณคุ้นเคยหลายชนิด นอกจากจะอร่อยลิ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาทางสุขภาพและช่วยส่งเสริมสุขภาพได้อีกด้วย และที่จะนำเสนอ ต่อไปนี้เป็นสุดยอดอาหารธรรมชาติที่ช่วยรักษาสุขภาพซึ่งคนเป็นแม่ควรจะได้รับรู้ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัวค่ะ

1.
บร็อคโคลี่ ผักในตระกูลกะหล่ำที่เป็นที่นิยมของนักบริโภคทั่วโลก บร็อคโคลี่มีประโยชน์ในการช่วยป้องกันมะเร็ง อุดมด้วยวิตามินซี สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็งแรงอีกด้วย นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสาร grutathione ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดไขข้ออักเสบ เบาหวานและโรคหัวใจ และนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดระดับโคเลสเตอรอลและช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยป้องกันการเกิดต้อกระจก เนื่องจากบล็อกโคลี่ มีสารเบต้าแคโรทีนสูง โดยเฉพาะสาร lutein
ขนาดรับประทาน : บร็อคโคลี่ 1/2 ถ้วย ต่อสัปดาห์ก็จะดีต่อสุขภาพ

2.
กระเทียม ช่วยลดโคเลสเตอรอล มีฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินในการช่วยป้องกัน การแข็งตัวและการอุดตันของหลอดเลือด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้เหมือนกับยาเพ็นนิซิลิน โดยเฉพาะเวลาที่เจ็บคอ สามารถใช้กระเทียมรักษาได้ดีค่ะ และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ในการช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็านมอีกด้วย
ขนาดรับประทาน : การป้องกันโรคหัวใจรับประทานวันละ 1 กลีบ โดยทั่วไปแนะนำให้รับประทานกระเทียมเป็นประจำทุกวัน

3.
ถั่วแดง เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารสูงมาก ดังนั้นจึงช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ อุดมด้วยกรดโฟลิคที่ช่วยบำรุงโลหิต ป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ Polyphenolics ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ดีอีกด้วย
ขนาดรับประทาน : ควรรับประทาน 1 ถ้วยต่อวัน

4.
นมพร่องมันเนย เป็นแหล่งของแคลเซียมสูงที่ปลอดไขมัน ซึ่งป้องกันภาวะกระดูกพรุน และยังประกอบด้วยสารโปตัสเซียมและแมกนีเซียมที่ออกฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ขนาดรับประทาน : คนวัยหนุ่มสาวต้องการแคลเซียมวันละ 1,000 mg. ส่วนวัยสูงอายุจะต้องการเพิ่มเป็น 1,500 mg/วัน จึงจะเพียงพอ ปัจจุบันมีนมพร่องมันเนยแคลเซียมสูงจำหน่ายอยู่ทั่วไปเลือกดื่มได้ตามปริมาณที่แนะนำ

5.
ส้ม ยอดผลไม้ที่มีปริมาณวิตามินซีสูง เส้นใยอาหารสูง รวมทั้งสารอาหารชนิดอื่นๆ ซึ่งช่วยป้องกันหวัด ลดระดับโคเลสเตอรอล ช่วยในการสร้างกระดูก ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ตลอดจนช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้สาร phytochemicals ในสังคมยังช่วยต่อต้านมะเร็งเต้านมด้วย
ขนาดรับประทาน : ควรรับประทานส้มวันละ 1-2 ผล เป็นประจำทุกวัน

6.
ปลาแซลมอน มีปริมาณน้ำมันปลาที่เรียกว่า Omega-3s ค่อนข้างสูง ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ และช่วยควบคุมอาการไขข้ออักเสบนอกจากนี้น้ำมันปลา ยังช่วยลดอาการปวดรอบเดือน กลุ่มอาการก่อนมีรอบเดือน รวมทั้งช่วยระงับอาการซึมเศร้าได้ด้วย
ขนาดรับประทาน : รับประทานสัปดาห์ละ 3 ออนซ์

7.
เต้าหู้ หนึ่งในอาหารชั้นเลิศที่ควรเลือกรับประทานค่ะช่วยลดระดับไขมัน โคเลสเตอรอล อุดมด้วยสาร Isoflavone สารเอสโตรเจนธรรมชาติจากพืช ป้องกันกระดูกพรุน ป้องกันมะเร็งเต้านม และยังช่วยให้ไตทำงานได้ดีด้วย
ขนาดรับประทาน : 30-50 mg ของ Isoflavone /วัน หรือเท่ากับปริมาณ เต้าหู้ 1/2 ถ้วย/วัน ซึ่งมี Isoflavone 35 mg.

8.
ซอสมะเขือเทศ นอกจากจะสุดอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์มากมาย เช่น ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร สาร Lycopene ในมะเขือเทศเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ พบมากในเฉพาะมะเขือเทศเท่านั้น ในผักผลไม้ชนิดอื่นจะมี Lycopene น้อย สาร Lycopene มีคุณสมบัติกำจัดสารอนุมูลอิสระตัวอันตรายให้ออกไปจากร่างกายของคุณซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันมะเร็งแล้ว ยังช่วยให้คุณห่างไกลความร่วงโรยอีกด้วย น่าสนมั้ยล่ะ
ขนาดรับประทาน : รับประทานได้ตามใจชอบเป็นประจำทุกวัน

9.
น้ำ ร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ จึงจำเป็นที่คุณควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะน้ำคือยาอันมหัศจรรย์ทีเดียว หากดื่มน้ำได้เพียงพอ จะช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย ตะคริว รักษาระดับอุณหภูมิของร่างกาย ป้องกันการเกิดนิ่ว และยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส

ควรจะดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และถ้าคุณสามารถดื่มได้มากกว่านี้ก็นับว่าเป็นกำไรของคุณ
เรื่องของ 9 สุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพจริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่เป็นเรื่องเก่าที่นำมาเล่าใหม่กี่ครั้งๆ ก็ยังไม่ทำให้ประโยชน์ที่ได้รับรู้ของผู้อ่านลดน้อยลง แต่กลับทำให้เป็นการตอกย้ำความระมัดระวังเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ.

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

นอนยังไง?? ชั้นถึงจะสวย เรื่องง่ายๆ ก็แค่นอน >

ความจริง ส้มมานั่งคิดๆดูนะ คนเราไม่จำเป็นต้องประโคมแต่งหน้า อะไรกันมากเลยเพราะ แค่ทำกิจวัตรประจำวันเนี่ยแหละใส่ใจกันหน่อย แค่นี้เองว่าไป การนอนมันก็เป็นเรื่องสำคัญนะจริงๆ แล้ว นอนไม่พอหน้าโทรม !!! ได้อีกแต่ก่อน ส้มเรียนทำงานดึกดื่นเกือบทุกคืน สิวเสี้ยนเต็มหน้าหน้าแห้งงงงง!!!แบบทาแป้ง ทาไงก็ไม่ติดอ่ะแล้วก็จริงคนเราปัจจุบันมีเรื่องคิดเยอะ ปรากฏว่า" นอนไม่หลับ " อีก คนยุคนี้ค่อนข้างจะมีปัญหาเรื่องการนอนไม่น้อยเลย

เทคนิคการอ่านหนังสือยังงัยน่ะให้จำง่ายๆ...

ข้อที่ 1. น้องๆต้องใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก่อนเลยล่ะ ดูซิ!!!ว่าวิชาไหนน่ะที่เราต้องสอบเป็นอันดับแรกๆ หยิบวิชานั้นขึ้นมาก่อนเลย เตรียมไว้นะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาที่จะสอบ ชีท เอกสารต่างๆ หรือแนวข้อสอบ(อันนี้สำคัญนะค่ะ หาให้เจอล่ะ) ค้นเลยๆ ทุกวิชานะค่ะ
ข้อที่ 2.แยกหมวดหมู่แต่ละวิชา ก่อน-หลัง แล้วหาที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยล่ะ
ข้อที่ 3.เตรียม ดินสอ/ปากกา สมุด และปากกาเน้นข้อความไว้ด้วยนะ

ข้อที่ 5.เริ่มอ่านวิชาที่จะต้องสอบก่อนเป็นวิชาแรกเลยค่ะ ตรงนี้แหละสำคัญมาก น้องๆอย่าอ่านๆๆๆๆๆแล้วก็อ่านเพื่อให้จบ แบบผ่านๆนะค่ะ ต่อให้น้องๆอ่านสัก 10 รอบแล้วบอกคนอื่นๆว่า "ก็เค้าอ่านเป็นสิบๆรอบแล้วอ่ะ แต่ทำไมทำข้อสอบไม่ได้เลยน่ะ?" อ่ะๆๆๆ!!! อ่านสัก 100 รอบก็ไม่ช่วยอะไรหรอกเจ้าค่ะ อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจไปด้วย ตรงไหนที่คิดว่าสำคัญๆ น้องๆก็เน้นตรงจุดนั้นไว้ อาจจะใช้วิธีการจดบันทึกไว้ หรือ เน้นข้อความด้วยปากกาสีต่างๆก็ได้ค่ะ เพื่อว่าจะได้กลับมาอ่านอีกครั้ง
ข้อที่ 6.นั้นงัยๆๆๆพี่บอกไปตะกี้เองนะค่ะว่าอย่าอ่านแบบผ่านๆ ดูสิ!!!น้องๆลองกลับไปอ่านข้อ 3 ใหม่สิค่ะ แล้วดูซิว่าที่ต่อจากข้อ 3 นะเป็นข้อที่เท่าไหร่ ข้อที่ 4หายไปๆๆๆๆ ส่วนน้องๆคนไหนสังเกตเห็นก่อนที่พี่เฉลย น้องก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของการอ่านหนังสือแล้วละค่ะ เก่งมากๆเลย ส่วนน้องๆคนไหนที่ไม่ทันได้สังเกต ก็เอาจุดนี้เนี่ยแหละค่ะไปลองปรับใช้กับการอ่านหนังสือดูตามที่พี่บอกไว้ในข้อที่ 5 นะค่ะ
ข้อที่ 7.อ่ะ ต่อๆๆ การไม่ปล่อยให้ท้องว่างก็เป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ ถ้าน้องๆอ่านๆๆๆหนังสืออย่างเดียวจนลืมทานข้าวแล้วละก็ นอกจากน้องๆจะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว อาจจะทำให้ป่วย และทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ด้วยนะจ๊ะ สำคัญเลย ต้องหาอะไรทานเมื่อท้องว่างด้วยน้า...อย่าทรมาณตัวเองละ
ข้อที่ 8.ในการอ่านหนังสือ น้องๆควรเลือกเวลาที่รู้สึกว่าสมองเราพร้อมจะทำงานด้วยนะจ๊ะ แล้วเมื่อน้องๆรู้สึกว่าเริ่มอ่านไม่ไหวแล้วล่ะ อ่านนานมากไปทำให้ปวดตา ปวดหัว ให้น้องๆพักก่อน อาจจะหาอย่างอื่นทำ เช่นพักสายตาโดยการหาเพลงเพราะๆฟัง(อ่ะๆๆๆเลือเพลงที่ฟังแล้วจรรโลงใจด้วยละ ถ้าฟังเพลงที่หนักไป อาจทำให้ยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่รู้ด้วยนะเจ้าค่ะ) จะดูทีวี เล่นเกม หรือกิจกรรมอื่นๆที่ทำแล้วผ่อนคลายก็หามาลองทำกันดูนะเจ้าค่ะ แต่ๆๆๆๆแล้วก็แต่...อย่าพักจนเพลินละ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายผ่อนคลายเพียงพอแล้วก็กลับเข้าสู่โหมดการอ่านหนังสือต่อเลยยย (เอาน่าๆทนเอาหน่อยนะเจ้าค่ะ สอบไม่ได้มีมาบ่อยๆ ตั้งใจให้สุดๆไปเลย)
ข้อที่ 9.นั้นแน่ๆ พี่รู้นะว่าน้องๆเริ่มใส่ใจในรายละเอียดในการอ่านกันบ้างแล้ว คงคิดใช่มั้ยละ ว่าพี่จะแกล้งทำให้ข้อไหนหายไปอีกน่ะ!!! ดีแล้วค่ะถ้าน้องๆคิดแบบนี้นะ เป็นการฝึกตัวเองไปด้วย ให้เป็นคนรอบคอบ ดีค่ะๆ อ่ะต่อๆ
ข้อที่ 10.อ้า....อ่านไม่ทันแล้วอ่ะ!!!ทำไงดีๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนๆคนอื่นๆเกือบทุกคนละค่ะ ที่สำคัญเลย อย่าตื่นเต้นจนรนล่ะ ตั้งสตินะค่ะตรงนี้สำคัญมากๆเลย ให้น้องๆหยุดอ่านหนังสือต่อสักพักนึง แล้วดูซิว่า...พรุ่งนี้เราสอบวิชาอะไรบ้าง แล้วหยิบวิชาที่สอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อนเลย แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆต่อไป (ตรงถ้าคิดว่ากลัวอ่านไม่ทันรอบทบทวนให้น้องๆอ่านในส่วนที่เน้น ที่สำคัญๆเอาไว้ก่อนเลย จำได้มั้ยเอ๋ยว่าในการอ่านรอบแรกพี่ให้น้องๆจดบันทึกที่สำคัญๆไว้ที่คิดว่าน่าจะออก หรือส่วนที่มันยาก จำไม่ได้ก็นำมาอ่านก่อนเลย ตรงส่วนไหนที่น้องๆจำได้ หรือเข้าใจก็เปิดผ่านๆเลยค่ะ ตอนนี้เราต้องทำเวลาแหละน่ะ)
ข้อที่ 11.เอาละ...อ่านหนังสือสอบก็ต้องฟิสหน่อย น้องๆบางคนอาจจะอ่านหนังสือเร็วและเข้าใจง่ายทำให้การอ่านหนังสือไม่ค่อยมีปัญหาเลยก็ดีไป ส่วนน้องคนไหนเป็นคนที่อ่านหนังสือช้าก็ต้องขยันกว่าคนอื่นๆหน่อยแล้ว อาจจะทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน ทำให้ต้องนอนดึกหน่อย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะค่ะ หานมอุ่นๆหรือของว่างทานสักนิดนึง ใส่ใจในสุขภาพหน่อยนะค่ะ เพราะเดี๋ยวน้องๆอาจป่วยได้ แล้วเป็นงัยน่ะ ไปสอบไม่ได้ แย่เลยน่ะเจ้าค่ะ สำคัญเลย ถ้าอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนนะค่ะ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอนกันดีกว่าค่ะ ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าเราตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบนะค่ะน้องๆ
***เป็นงัยค่ะ ทั้ง 10 ข้อที่พี่ได้นำมาฝากกัน ก็ลองนำไปทำตามกันดูนะค่ะ***
Ps. ผลเป็นงัยบอกกล่าวกันบ้างนะเจ้าค่ะ ^ ^
+++สุดท้ายๆๆแล้วก็ท้ายสุด พี่ "นางฟ้าซาตาน" ขอให้น้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนทำข้อสอบได้นะเจ้าค่ะ แล้วขอให้เกรดออกมาเป็นที่น่าพอใจด้วยล่ะ โชคดีจ้า...+++

วิธีการเรียนใหได้ดี

ทุกคนต้องมีความคิดที่เหมือนกันว่าตนเรียนได้ เรียนดี แต่สุดท้ายผลก็ออกมาตกมีรู้วิธีการเรียนดีกันดีกว่าแล้วสุดท้ายผลจะได้ออกมาไม่ตก

1.ส่งงานตรงเวลา
2.มีความรับผิดชอบ
3.เข้าเรียนตรงเวลา

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

เราโชดดีที่ได้เกิดมา

ในชาตินี้เขาไม่ัดัดที่หน้าตาแต่ชาติต่อไปเขาอาจจะคัดที่น่าตา

เราจงภูมิใจที่ได้เกิดมา

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

วิธีเรียนคณิต

1.เรียนให้สนุก
2.ไม่ต้องเครียด
3.จำให้ได้
4.จำทักษะให้ได้

ทำ 4 อย่างนี้ก็จะเรียนคณิตได้เก่ง ไม่ต้องไปหาเรียนข้างนอก

5 Gm ไม่ต้องเสียเงิน

ใช้ง่าย สะดวก สบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปซื้อ

ไม่ต้องเสียเวลาไปซ่อม

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แม่ที่มีพระคุณ

ใกล้ถึงวันแม่แห่งชาติ ก็ขอถือโอกาสนำเรื่องพระคุณของแม่ ในบางแง่บางมุมมาฝากพวกเรา ซึ่งหลายท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้ ต้องทำหน้าที่ทั้ง ๒ อย่างควบคู่กันไป คือทำหน้าที่เป็นลูกที่ดี พร้อมกันนั้น ก็ต้องมาทำหน้าที่เป็นแม่ที่ดีไปพร้อมๆ กันด้วย พระคุณของแม่ และแน่นอนรวมทั้งพระคุณของพ่อด้วย ในแง่มุมต่างๆ นั้น มีอยู่มากมาย จนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและโบราณจารย์ต่างๆ ถึงกับสรุปออกมาว่า พระคุณของพ่อแม่มีมากจนกระทั่งว่า ถ้าจะเอาแผ่นฟ้ามาแทนกระดาษ เอาน้ำในมหาสมุทรมาแทนน้ำหมึก เอาเขาพระสุเมรุ ที่ถือว่าเป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุด มาแทนปากกา แล้วบรรจงเขียนพรรณนา พระคุณของพ่อ พระคุณของแม่ จนกระทั่งตัวอักษรเต็มผืนฟ้า น้ำทะเลหมดมหาสมุทร เขาพระสุเมรุทั้งลูกก็สึกราบเรียบไปหมด แม้กระนั้นก็ยังพรรณนาพระคุณของท่านไม่จบเลย คำอุปมานี้บางท่านอาจจะมีความรู้สึกว่า มากเกินไปหรือเปล่า ซึ่งจะว่ามากไปก็มีส่วนถูก จะว่าน้อยไปก็มีส่วนถูก เพราะขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้น เป็นใคร เพราะอย่าว่าแต่แผ่นฟ้า ทั้งผืนเลย แค่กระดาษชิ้นเท่าฝ่ามือ ถ้าให้คนบ้าเขียนพรรณนาพระคุณแม่ เขาคงเขียนไม่ได้ หรือถ้าเขียนได้ ก็คงเขียนไม่เต็มกระดาษแผ่นนั้น ในเวลาเดียวกัน สำหรับผู้ที่เป็นบัณฑิต เป็นนักปราชญ์ โดยเฉพาะเป็นบัณฑิต เป็นนักปราชญ์ ทั้งทางโลกและทางธรรม แผ่นฟ้าทั้งผืนก็ไม่พอที่จะเขียนพรรณนาพระคุณของแม่จริงๆ
เพราะฉะนั้น วันนี้หลวงพ่อจะกล่าวถึงพระคุณแม่โดยย่อๆ เพื่อให้พวกเราได้ทราบว่า พระคุณแม่นั้นมีมากมายอย่างไร
๑. ท่านให้กำเนิดเรามา พอพูดอย่างนี้ หลายคนอาจจะเถียงว่า แล้วถ้าแม่ทำแท้งเสียก่อนล่ะ ถ้าแม่ทำแท้งเสียก่อน เอ็งก็ไม่ได้มานั่งฟังหลวงพ่อเทศน์อยู่อย่างนี้หรอก ๒. ท่านให้รูปร่างที่เป็นคนแก่เรา ภาษาพระใช้คำว่า แม่ให้โลกนี้แก่เรา ซึ่งฟังแล้วเราอาจ จะไม่ค่อยเข้าใจนัก เพราะคำว่า "โลก" ที่เราเข้าใจโดยทั่วไปนั้น หมายถึงโลกที่เราอยู่ แต่ว่าในความหมาย ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือในความหมายทางธรรม ไม่ใช่เพียงแค่นั้น
พระสารีบุตรท่านเคยให้คำจำกัดความเอาไว้ว่า สิ่งที่ยังฉิบหายได้เรียกว่า โลก แล้วท่านก็ให้ความหมายของคำว่า "โลก" เอาไว้โดยย่อมีอยู่ ๓ ประการ คือ ๑. โลก หมายถึง สังขารโลก คือ ร่างกายและจิตใจของคนเรา สังขารโลกของใครก็ของคนนั้น ๒. โลก หมายถึง สัตวโลก คือ ยกเว้นตัวเราแล้ว สิ่งมีชีวิตนอกนั้นเป็นสัตวโลกทั้งหมด ๓. โลก หมายถึง โอกาสโลก คือ ช่องว่างให้สัตวโลกได้อยู่อาศัย โลกทั้งโลกที่เราอยู่ก็เป็น โอกาสโลกของมนุษย์ สวรรค์กี่ชั้นๆ ก็เป็น โอกาสโลกของเทวดา และนรกก็เป็น โอกาสโลกของสัตว์นรก เพราะฉะนั้น พระคุณแม่ในข้อที่ให้โลกนี้แก่เรา คือ ประการที่ ๑ ท่านให้ร่างกายพร้อมด้วยจิตใจกับเรา ประการที่ ๒ ท่านทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวแทนของสัตวโลกทั้งโลกนั่นแหละ คือ สอนให้เรารู้จักคน รวมทั้งสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ ไปตามลำดับๆ ประการที่ ๓ ท่านสอนให้เรารู้จักกับโอกาสโลก คือ แผ่นดิน แผ่นฟ้า แผ่นน้ำ ที่เราได้อยู่อาศัย เพราะฉะนั้น พระคุณแม่เอาจริงๆ เข้าแล้ว มีตั้งแต่ให้โอกาสเรามีชีวิตจนกระทั่งออกมาดูโลก ให้รูปร่างที่เป็นคน แล้วก็หาพื้นที่บนโลกอย่างพอเหมาะพอสม ให้เราได้อยู่อาศัยอย่างมีความสุข ส่วนคำว่า "สังขารโลก" คือ ร่างกายและจิตใจ หรือพูดง่ายๆ ว่า คือตัวเรา ถ้าพูดในเชิงธรรมะ ต้องบอกว่า ตัวเรานี้ ไม่ว่าจะเป็นหญิง ไม่ว่าจะเป็นชาย จะสูงต่ำดำขาว จะโง่หรือฉลาด ก็ตาม ล้วนมีที่มา คือ กรรมดี กรรมชั่ว ที่สร้างข้ามภพข้ามชาติมานั่นเอง แต่ถ้าพอเหมาะพอดีแก่กรรมของเราแล้ว แม่ไม่ให้ยืมท้องเกิด ต้องไปอาศัยท้องของคนอื่นเกิด นี่ยุ่งเลย เพราะของอาศัยจะให้ดีเท่าของจริงนั้น เป็นเรื่องยาก ยิ่งไปอาศัยท้องแม่ที่ไม่ได้เป็นคนล่ะก็ แย่เลย เพราะฉะนั้น แค่แม่ให้อาศัยท้องเกิด ให้มีรูปร่างที่เป็นคน แล้วก็มีคุณภาพขนาดนี้ พระคุณของท่านไม่ต้องพูดกัน ว่าจะมากมายขนาดไหน แม้ว่าบางคนเมื่อคลอดออกมาแล้ว อาจจะไม่หล่อ อาจจะไม่สวย หรืออาจจะพิกลพิการ บางส่วนไปบ้าง ก็อย่าเพิ่งน้อยใจ อย่าไปตัดพ้อต่อว่าใคร ถ้าจะโทษก็โทษตัวเองดีกว่า ว่าเราสร้างความดี มาไม่พอ เราทำกรรมมาไม่ดีเอง เราถึงได้เป็นอย่างนี้ และไม่ต้องพิกลพิการไปมากกว่านี้ก็ดีแล้ว
ยกตัวอย่างแม้ตาจะบอดไปสักข้าง หรือขาจะเป๋ไปบ้าง ก็ก้มหน้ารับกรรม ที่เราเคยทำมาเถอะ ได้เกิดเป็นคนก็ดีแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็ยัง มีโอกาสสร้างความดี นี่ถ้าไปเกิดเป็นสุนัขล่ะก็ สร้างความดี อย่างนี้ไม่ได้หรอก แต่ไม่ว่าจะมีสภาพอย่างไร เมื่อคลอดออกมาแล้ว แม่ก็เลี้ยงด้วยความเต็มอกเต็มใจ คอยประคบประหงม มาอย่างดี ไม่ได้มีความรังเกียจเดียดฉันท์เลย เลี้ยงอย่างสุดฝีมือ เต็มกำลัง ของท่านทีเดียว ความจริงเวลาที่ คลอดออกมาใหม่ๆ นั้น ตัวของเราแดง อย่างกับลูกนกอนาคต จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ จะมีเชื้อพิการ หรือจะมีเชื้อโรคร้ายอยู่ในตัวบ้างหรือเปล่า ก็ไม่รู้ แต่ว่าแม่ก็ยัง สู้อุตส่าห์เลี้ยงดูมาอย่างดี เหนื่อยแทบตายก็เลี้ยง เสี่ยงเท่าไหร่ก็เลี้ยง ทั้งที่เราก็ไม่เคยรับปาก เลยว่า พอโตขึ้นมาจะทำ อะไรให้ท่านบ้าง สัญญาสักฉบับก็ไม่เคยทำให้ท่าน
ในขณะที่เราจะทำอะไรให้ใครสักอย่าง แค่จะให้เขายืมเงินสัก ๑,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๐ บาท ยังต้องให้เขาทำสัญญาเสียก่อน แต่แม่เลี้ยงเรามาไม่รู้หมดเงินไปเท่าไหร่ สัญญาสักฉบับก็ไม่เคยมี ถามว่าท่านโง่หรือ ท่านไม่ได้โง่หรอก แต่เพราะท่านมีความเมตตากรุณากับเราอย่างท่วมท้นนั่นเอง ท่านจึงเลี้ยงเรามา เพราะฉะนั้น ถ้าใครเคยคิดตัดพ้อต่อว่าคุณแม่ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไร แม้สักนิดหนึ่งก็ตาม วันแม่แห่งชาติที่จะถึงนี้ รีบไปกราบขอโทษท่าน หรือไม่ต้องรอจนถึงวันแม่แห่งชาติก็ได้ คืนนี้ไปกราบ ขอโทษท่านเสียดีๆ ส่วนผู้ที่คุณแม่เสียชีวิตไปแล้ว ก็กลับไปจุดธูปจุดเทียนไว้ให้ดี แล้วคืนนี้นั่งสมาธิส่งบุญกุศล ไปให้ท่านเยอะๆ
แล้วรูปร่าง ที่เป็นมนุษย์ ที่แม่ให้มานี้ดีอย่างไร ร่างกายมนุษย์เมื่อ เทียบกับร่างกายเสือ ร่างกายช้าง ถ้าพูดถึงความแข็งแกร่ง ความแข็งแรง ก็สู้เสือ สู้ช้าง ไม่ได้ แต่ถึงกระนั้น ร่างกายมนุษย์นี้ ก็เหมาะในการ ที่จะทำความดีได้ ทุกรูปแบบ ซึ่งสัตวโลก ชนิดอื่นทำไม่ได้ ยกตัวอย่าง เสือ ช้าง จะแข็งแรงแค่ไหนก็ตาม มันก็ได้แต่แข็งแรงเท่านั้น จะเอาไปประกอบ คุณงาม ความดีอะไรก็ไม่ได้ แค่จะเอาอาหารไปฝาก แม่ของมันสักมื้อ ก็ยากแล้ว แต่มนุษย์ทำได้ และทำได้ดีเสียด้วย
เพราะฉะนั้น รูปร่างของคนเรานี้ ถ้าเปรียบเป็นโรงงาน ก็เป็นโรงงานชนิด ที่สามารถผลิตความดี ได้อย่างมี ประสิทธิภาพสูงสุด กว่าบรรดาโรงงานทั้งหลาย
ร่างกายที่มีประสิทธิภาพอย่างนี้ เราได้มาจากแม่ แม่ให้โรงงานนี้แก่เรา ไม่ใช่คนอื่นให้ และไม่ใช่เทวดาเสกมาให้ด้วย พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ สังขารโลกของเรา มีคุณตรงที่ว่า สามารถเอามา ประกอบคุณงามความดีได้สารพัด
แต่ว่าถ้าแม่ไม่ได้อบรม ไม่ได้สั่งสอน ไม่ได้ปลูกฝังให้เราทำแต่ความดีเรื่อยมาแล้ว เราก็อาจจะเอาสังขารโลกที่ได้มา ไปใช้ในทางที่เสื่อมเสีย หรือเอาไปใช้ถล่มทลายเหมือนอย่างกับหลายๆ คนในโลกนี้ ที่เขาถล่มทลายสังขารโลกของเขา ให้เราดู
ยกตัวอย่าง ที่เราต้องมาเป็นกัลยาณมิตรให้กับเขา ต้องมาต่อสู้ ต้องมารณรงค์กันทุกวันนี้ ก็เนื่องจากเห็นเขากำลังทำลายสังขารโลกของตัวเอง ด้วยการดื่มเหล้าบ้าง ด้วยการสูบบุหรี่บ้าง เราก็เลย ต้องมา เทเหล้าเผาบุหรี่ช่วยเขาอยู่นี่ ซึ่งถ้าไม่ได้คุณแม่ปูพื้นฐานมาให้ตั้งแต่ต้น เราก็คงจะมอง ไม่ออกเหมือนกัน
เมื่อเป็นอย่างนี้ ต้นทางแห่งความดีทั้งหลายของเรา จึงเริ่มต้นมาจากแม่ทั้งนั้น อย่านึกว่า ตัวเองเก่งไป แค่ท่านจับโยนลงถังขยะ หรือไม่ยอมให้เกิดในท้องของท่านล่ะก็ ไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้กันหรอก
เพราะฉะนั้น พระคุณของแม่ที่อุปมาว่า พรรณนาจนกระทั่ง แผ่นฟ้าเต็มไปด้วยตัวอักษร น้ำในมหาสมุทรที่เอา มาแทนน้ำหมึก ก็เหือดแห้งไป และเขาพระสุเมรุ ที่เอามาใช้เป็นปากกา ก็สึกไปจนหมดนั้น ท่านหมายถึง แม่ประเภทที่ นอกจากให้ชีวิต ให้ร่างกายที่เป็นมนุษย์แล้ว ยังให้การอบรมสั่งสอน ให้ลูกเป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม จนกระทั่งลูกสามารถ เข้าถึงพระธรรมกายในตัวได้ ซึ่งเรียกว่า "แม่แก้ว" นั่นเอง
ไม่ใช่แม่ประเภทที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ อยู่นั่นแหละ เลี้ยงลูกแค่พอให้โตขึ้นมา แล้วต่างคนก็ต่างไป
"ลูกเอ๊ย แม่รักลูกมาก เอากะลานี้ไปขอทานนะ ถ้าเป็นคนอื่นแม่ไม่ให้หรอก"
หรือว่า "แม่รักลูกมาก แม่จึงสอนวิชาขโมยให้" อย่างนี้ไม่ใช่แม่แก้วแล้ว
ส่วนผู้ที่เป็นลูกก็เหมือนกัน นอกจากจะทำตัวเป็นลูกที่ดี เชื่อฟังและทำตามที่คุณแม่ ได้อบรมสั่งสอนอย่างดีแล้ว ถ้าคุณแม่ของใครยังไม่ทำทาน ยังไม่รักษาศีล ยังไม่นั่งสมาธิ ก็ต้องพยายาม ที่จะทำให้ท่าน รักในการทำทาน รักษาศีล และนั่งสมาธิ จนกระทั่งท่านเข้าถึงพระธรรมกายในตัวได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ใช่ลูกแก้วอีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ต่างคนต่างกลับไปดูใจของตัวเองก็แล้วกัน ว่าเป็นแม่แก้ว หรือว่าเป็นลูกแก้ว กันหรือยัง

งานคอมพิวเตอร์

กลุ่มที่ 4
1.นาย สันติภาพ กวีกรณ์ เลขที่ 4
http://santipap.blogspot.com
2.นางสาว จริยา เหล็กงาม เลขที่ 10
http://mlik-tem.blogspot.com
3.นาวสาว อุษณีย์ แก้วหาวงศ์ เลขที่ 16
4.นางสาว เสาวลักษณ์ โคตรพรม เลขที่ 22
http://bell-ave.blogspot.com
5.นางสาว เมธาวี สินทรัพย์ เลขที่ 28
http://mata-vee.blogspot.com/
6.นางสาว วิจิตรา บัวใหญ่ เลขที่ 34
http://wijittra-jaaddy.blogspot.com/
7.นางสาว ลัดดาวัลย์ วงศ์สุวรรณ เลขที่ 40

การออกเบบข้อสอบ

1.Caching(Cache) มีความสัมพันธ์ระหว่าง RAM และ CPU อย่างไร ?
ตอบ Cache จะคอยประสานการทำงานระหว่าง RAM และ CPU
2. Graphic Card มีความสำคัญอย่างไรต่อการแสดงผล ?
ตอบ Graphic Card จะช่วยให้จอภาพ แสดงภาพต่างๆได้เต็มที่
3. อุปกรณ์อินพุท เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร ใช้สำหรับทำอะไร ยกตัวอย่างมา 3 ตัวอย่าง ?
ตอบ อุปกรณ์อินพุท เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รับข้อมูล(Input device) ใช้สำหรับในการสั่งงานคอมพิวเตอร์เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด จอยสติ๊ก
4. ระบบปฏิบัติการ ถูกจัดเก็บไว้ที่ใด มีความสำคัญอย่างไร ยกตัวอย่างมา 2 ตัวอย่าง ?
ตอบ ระบบปฏิบัติการ ถูกจัดเก็บอยู๋บนฮาร์ดดิสก์ มีความสำคัญคือ เป็นพื้นฐานการทำงานของ PCหากไม่มีตัวระบบปฏิบัติการก็จะไม่สามารถ เปิดเครื่อง PC และบูธขึ้นมาได้ ตัวอย่างเช่น Windows ,Mac os หรือ Linux

วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เศรษฐกิจพอเพียร

ความรู้สึก

ได้รู้จักเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงเพิ่มมาขึ้น

ต่อคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

ความรุ้สึก

ข้าพเจ้าได้ทำการต่อคำศัพท์เป้นเรื่องที่ข้าพคิดว่ายากที่สุดคงทำไม่ได้

แต่จริงเป็นเรื่องง่ายที่สุด ไม่เป็นเรื่องยากเลย

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความรุ้สึกที่ทำตัวเลข 100 ช่อง

ความรู้สึก
ดีใจที่ได้ทำให้น้องได้ฝีกทักษะกระบวนการคิดแก่น้อง เกี่ยวกับการทำเลข 100 ช่อง ยังทำให้น้องได้คิด จะได้ฝึกสมองตลอดเวลา จะได้ไม่ลืมกระบวนการคิด

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แนะนำตัวเอง

ชื่อ นางสาว.เมธาวี สินทรัพย์
ชื่อเล่น เมย์
กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.4
โรงเรียน อาเวมารีอา
คุณครูผู้แนะนำ วีระชน ไพสาทย์

วันนี้ข้าพเจ้าดีใจที่ได้มาสร้างเว็บบล็อดได้เป็นคนตนเอง เป้นสิ่งที่ดีของข้าพเจ้ามาเลย
และข้าพเจ้ายังได้สร้างกรรมดีของข้าพเจ้ามาเลย

ข้าพเจ้ายังมีแต่สิ่งดีให้ท่านเห็นเชิญเขามารับชม